
ฟันร้าว คืออะไร ?
ฟันที่มีการแตกร้าว ตั้งแต่ระดับ ผิวฟัน เนื้อฟัน อาจลุกลามถึงรากฟันและโพรงประสาทฟัน
อาการแสดง : ตั้งแต่ไม่อาการ จนถึง ปวดฟัน เวลากัดเคี้ยวของแข็ง ปวดเป็นๆหาย หรือเสียวฟัน เวลาทานของร้อน หรือเย็น และถ้าเป็นหนัก อาการปวดจะเป็นตลอด เวลาไม่หาย
เมื่อมีอาการปวดหรือเสียวเมื่อกัดเคี้ยวของแข็ง หรือเวลาทานของร้อน / เย็น ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ เพราะรอยร้าวที่ไม่ลึก สามารถทำการรักษาโดยการบูรณะฟันได้ หากรอยร้าวที่ลึก อาจลุกลามทำให้ฟันแตก หรือ รากฟันแตกได้ ซึ่งยากที่จะทำการบุรณะ นำไปสู่การสูญเสียฟันซี่นั้นในที่สุด
ทำไม ฟันถึงร้าว?
- 1. ทานอาหารหรือขบเคี้ยวอาหารแข็งๆ เช่น น้ำแข็ง ถั่ว กระดูกอ่อน ลูกอม เป็นต้น
- 2. กระแทก/ล้ม จาก อุบัติเหตุ หรือ กัดถูกของแข็งโดยบังเอิญ เช่นเศษหิน กรวด ในอาหาร
- 3. การนอนกัดฟัน โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ไม่รู้ตัว
- 4. การเล่นกีฬาหนักๆ ทำให้มีการกัดเค้นฟันแน่นๆ
- 5. ทานของร้อน และ เย็นจัด ตามทันที
- 6. วัสดุ อุดฟันขนาดใหญ่ เนื้อฟันสูญเสียความแข็งแรง
- 7. ฟันผุขนาดใหญ่ ทำให้ฟันเปราะ
- 8. ฟันกราม/กรามน้อย ที่รักษาคลองรากโดยไม่ได้ทำครอบฟัน ?
ฟันร้าว รักษาอย่างไร ?
ขึ้นกับความรุนแรงของระดับรอยโรค ว่าสามารถทำการบูรณะ ได้หรือไม่
ขึ้นกับความรุนแรงของระดับรอยโรค ว่าสามารถทำการบูรณะ ได้หรือไม่
- 1. การอุด และ/หรือรื้อวัสดุอุดฟัน: เพื่อประสานรอยร้าว และบูรณะฟันส่วนที่แตกให้กลับมาใช้งานได้
- 2. ครอบฟัน: เมื่อรอยร้าวขยายใหญ่ หรือฟันแตก ใหญ่ ทำให้มีความจำเป็นต้องทำครอบฟัน เพื่อ พยุงฟัน และรักษาความแข็งแรงของฟัน
- 3. รักษาคลองรากฟัน: เมื่อรอยร้าวขยายไปถึง โพรงประสาทฟัน และ/หรือ ทำครอบฟันชั่วคราว แต่อาการไม่หายไป
- 4. ถอนฟัน: ฟันที่แตกร้าวถึงรากฟัน หรือสุญเสียเนื้อฟันจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถบูรณะฟันขึ้นได้ มีความจำเป็นต้องถอนฟัน
ป้องกันฟันร้าว ทำอย่างไร?
- 1. ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน
- 2. หมั่นตรวจสุขภาพฟัน ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็ค สภาพ ฟันและเหงือก เป็นต้น
- 3. อาหาร: หลีกเลี่ยงการบดเคี้ยวของแข็ง ของเหนียว เช่น ถั่ว น้ำแข็ง กระดูกอ่อน เป็นต้น
- 4. หากมีภาวะนอนกัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อ แก้ปัญหาที่สาเหต หรือทำ splint
- 5. หลังรักษาคลองรากฟัน ควรทำครอบฟัน ป้องกันฟันแตกในภายหลัง